เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ ว่าเสือกับสิงโตสามารถเป็นแฟนกัน และมีลูกด้วยกันได้นะ ? และนอกจาก “ไลเกอร์” กับ “ไทกอน” แล้ว ยังมีสัตว์ลูกผสมอีกหลายชนิด ที่เกิดจากพ่อแม่ต่างสายพันธุ์กัน และเติบโตขึ้นมาโดยที่ส่วนใหญ่เป็นหมันเหมือนกันอีกด้วย แต่จะมีสัตว์ชนิดใดบ้างนั้น ไปติดตามกันได้ด้านล่างนี้เลย
*สำคัญมาก อ่านตรงนี้ก่อน !* แม้ว่าสัตว์ข้ามสายพันธุ์จะดูน่ารักแปลกตา แต่มักเกิดจากการผสมพันธุ์ของมนุษย์ หรือเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์จึงไม่มีทางเลือกในการหาคู่ตามปกติ สัตว์ข้ามสายพันธุ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ตามธรรมชาติ และมักจะเกิดมาพร้อมกับโรคภัยไข้เจ็บมากมาย ดังนั้น จึงมีการออกกฎหมายเพื่อห้ามการผสมพันธุ์สัตว์ป่าหายากหรือสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์บางชนิดแล้วในปัจจุบัน
พ่อเป็นสิงห์ แม่เป็นเสือ เรียก ไลเกอร์ (Liger)
ไลเกอร์ คือ สัตว์ลูกผสมที่จากคุณพ่อสิงโต และคุณแม่เสือ ด้วยความที่ทั้งสิงโตตัวผู้และเสือตัวเมียต่างก็ไม่มียีนหยุดยั้งการเจริญเติบโตทั้งคู่ ไลเกอร์ผู้น่าสงสารจึงมีน้ำหนักตัวที่มากที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ ตระกูลเดียวกัน (และแน่นอนตัวใหญ่กว่าพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดถึง 2 เท่า) โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 ปอนด์ หรือราว ๆ 453 กิโลกรัม อีกทั้งยังสูงได้ถึง 6 เมตร เมื่อยืนบนขาหลังทั้ง 2 ข้าง และวัดจากเท้าถึงใบหู
อย่างที่เราเกริ่นกันไปแล้วว่าสัตว์ข้ามสายพันธุ์นั้นเกิดมาพร้อมกับปัญหารอบตัว อย่างแรกเลยคือเรื่องของน้ำหนักตัวนี่แหละ คุณแม่เสือนั้นคลอดไลเกอร์น้อยด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่มาก จึงต้องพึ่งพาการผ่าตัดเสียเป็นส่วนใหญ่ ปัญหาต่อมาที่ไลเกอร์ต้องพบเจอคือการเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคอ้วน และยังมีอายุขัยที่สั้นกว่าน้องหมาเสียอีก ! โดยเฉลี่ย ไลเกอร์อายุไม่เกิน 7 ปี (แม้ว่าจะอยู่ในสวนสัตว์และมีชีวิตที่สุขสบาย) และมีเพียงบางตัวเท่านั้นที่อายุยืนถึง 20 ปี ในขณะที่เสือและสิงโตปกติมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 14-15 ปี
ปัจจุบันมีไลเกอร์อยู่ราว ๆ 30 ตัวในโลกใบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะไลเกอร์ตัวผู้นั้นเกิดมาเป็นหมัน ไม่สามารถผสมพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ต่อได้ ส่วนไลเกอร์ตัวเมียนั้น สามารถมีลูกกับสิงโตตัวผู้ได้ (แต่จะมีลูกกับเสือหนุ่มได้มั้ย ยังคงเป็นปริศนา) โดยในปี 2012 ไลเกอร์สาวผสมพันธุ์กับสิงโตหนุ่ม จนคลอดลูกออกมาเป็น “Liliger” ชื่อ Kiara
พ่อเป็นเสือ แม่เป็นสิงห์ เรียก ไทกอน (Tigon)
ไทกอน คือ สัตว์ลูกผสมที่เกิดจากพ่อที่เป็นเสือ ส่วนแม่เป็นสิงโต แน่นอนว่าย่อมเกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ได้เนื่องจากเสือนั้นมีถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่ในทวีปเอเชีย ส่วนสิงโตนั้นอาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา โดยจำนวนไทกอนในปัจจุบันมีน้อยกว่าไลเกอร์มาก (ขอย้ำอีกครั้งว่าดีแล้ว !)
ในขณะที่พี่ใหญ่ไลเกอร์ใหญ่กว่าพ่อแม่มาก น้องเล็กไทกอนนั้นมีเท่ากับหรือเล็กกว่าพ่อแม่ เพราะดันได้รับยีนหยุดยั้งการเจริญเติบโตมาจากทั้งเสือตัวผู้และสิงโตตัวเมีย โดยมีน้ำหนักประมาณ 350 ปอนด์หรือประมาณ 158 กิโลกรัมเท่านั้น
เช่นเดียวกับไลเกอร์ ที่หนุ่ม ๆ ไทกอนนั้นเป็นหมันและไม่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้ แต่ไทกอนตัวเมียนั้นสามารถมีลูกได้เช่นกัน โดยเคสที่น่าสนใจที่สุด คือไทกอนสาวชื่อ Rudhrani ณ สวนสัตว์ในประเทศอินเดีย ได้ผสมพันธุ์กับสิงโตตัวผู้ และมีลูกออกมาเป็น “Litigon” ถึง 7 ตัวตลอดชีวิตของเธอ โดยหนึ่งในนั้นคือ Litigon เพศผู้ Cubanacan ที่มีน้ำหนักถึง 362 กิโลกรัม นอกจากนั้น ไทกอนตัวเมียยังสามารถมีลูกกับเสือตัวผู้ได้ด้วย โดยลูกที่ออกมาจะถูกเรียกว่า “Titigon”
พ่อเป็นลา แม่เป็นม้า เรียก ล่อ (Mule)
ไลเกอร์กับไทกอนเพิ่งมาปรากฏในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ แต่สำหรับ “ล่อ” นั้นมีปรากฏให้เห็น 3,000 ปีมาแล้ว โดยถูกผสมพันธุ์ขึ้นเพื่อการใช้งาน เพราะล่อนั้นต่างจากไลเกอร์และไทกอนตรงที่ดึงเอาข้อดีของทั้งพ่อลาและแม่ม้ามาไว้ในตัว โดยสามารถทนทานต่ออากาศแย่ ๆ ได้เช่นเดียวกับลา ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียและแอฟริกา อีกทั้งยังฉลาดมากพอที่จะประเมินสถานการณ์อันตรายที่อยู่ตรงหน้า โดยเจ้าล่ออาจตัดสินใจสู้ หรือวิ่งหนีก็ได้ ต่างจากแม่ม้าที่มักจะขี้กลัวและหนีลูกเดียว
ด้วยเหตุนี้ ล่อจึงเคยถูกใช้ในการขนอาวุธจำพวกระเบิด (สงสารน้อง !) เพราะมีความสงบร่มเย็นกว่าม้าที่อ่อนไหว อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่กว่าลาที่เป็นบรรพบุรุษ จึงทำให้ขนสิ่งของได้มากกว่าและยังว่องไวกว่าอีกด้วย
ล่อนั้นมีรูปร่างใหญ่โตไม่น้อย โดยสูงได้ตั้งแต่ 120 - 180 เซนติเมตร มีหูใหญ่ยาวกว่าม้าแต่เล็กกว่าลา ล่อโดยส่วนใหญ่เป็นหมัน แต่ในบางครั้งล่อตัวเมียก็สามารถให้กำเนิดเจ้าตัวน้อยได้เหมือนกัน
พ่อเป็นม้า แม่เป็นลา เรียก ฮินนี (Hinny)
ฮินนี คือสัตว์ลูกผสมระหว่างพ่อม้า และแม่ลา โดยมีลักษณะไม่ต่างกับล่อมากนัก จึงทำให้แยกออกจากกันยากมาก (และโดยส่วนใหญ่ไม่มีใครมานั่งแยกด้วย เพราะสัตว์ทั้ง 2 ชนิดมีนิสัยเหมือนกัน และถูกใช้งานในลักษณะเดียวกัน) โดยรวมแล้ว อาจมีแค่ลักษณะของศีรษะเท่านั้น ที่แตกต่างกัน โดยล่อมีศีรษะคล้ายกับลามากกว่า ส่วนฮินนีนั้นมีลักษณะคล้ายม้า
พ่อเป็นม้าลาย แม่เป็นม้า เรียก Zorse
จริง ๆ แล้ว Zorse นั้น สามารถมีแม่เป็นม้าหรือสัตว์จำพวกม้าอื่น ๆ ได้เช่นกัน Zorse มีหลายสีหลายขนาด แต่ส่วนใหญ่จะมีรูปร่างคล้ายกับแม่ม้าผู้ให้กำเนิด เพียงแต่ได้ลวดลายของม้าลายผู้เป็นพ่อมาบ้างเท่านั้น อีกทั้งยังได้รับยีนแคระมาจากทั้ง 2 ฝั่ง จึงทำให้มีโอกาสตัวเล็กกว่าบรรพบุรุษได้
ในขณะที่ม้ามักเข้ากันได้ดีกับมนุษย์ แต่ Zorse มีความอินดี้และชอบอยู่แบบปลีกวิเวกปราศจากการรบกวนของมนุษย์มากกว่า อีกทั้งยังไม่ต่างจากสัตว์ข้ามสายพันธุ์อื่น ๆ ที่มักเป็นหมัน
พ่อเป็นวาฬเพชรฆาตดำ แม่เป็นโลมาปากขวด เรียก Wholphin
สัตว์ข้ามสายพันธุ์ชนิดนี้มีอยู่ตัวเดียวในโลกเท่านั้นนะ โดยน้องมีชื่อว่า Kekaimalu อาศัยอยู่ที่สวนสัตว์สำหรับสัตว์ทะเลในฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสีของเจ้า Wholphin นั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างสีเทาของแม่โลมาปากขวด และพ่อวาฬเพชรฆาต แต่มีขนาดใหญ่โตกว่าแม่ของตัวเองมาก โดย Wholphin อายุไม่กี่เดือน ก็มีขนาดใหญ่กว่าโลมาปากขวดอายุ 1 ปีแล้ว
ในช่วงที่เพิ่งเกิด Wholphin ดื่มนมแม่ใต้น้ำถึง 9 เดือนกว่าจะเริ่มกินอาหารปกติ นอกจากนั้น Wholphin 1 เดียวในโลกอย่างเจ้า Kekaimalu นั้นไม่เป็นหมันนะจ๊ะ น้องให้กำเนิดลูกสาวถึง 2 ตัว (พ่อเป็นโลมาปากขวด) แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว 1 ตัว แต่อีกตัวยังแข็งแรงดี
พ่อเป็นอูฐโดเมดารี แม่เป็นลามะ เรียก Cama
Cama เป็นสัตว์ลูกผสมระหว่างอูฐตัวผู้ และลามะตัวเมีย โดยถูกผสมพันธุ์เป็นครั้งแรกในปี 1998 ที่ประเทศดูไบ จุดประสงค์ของการจับสัตว์สองชนิดมาเป็นแฟนกันก็เพราะมนุษย์เรานี่แหละ อยากได้สัตว์ที่มีขนสวยเหมือนลามะ (แต่มีปริมาณมากกว่า) และแข็งแรงทนทานเหมือนอูฐ
เจ้า Cama ตัวแรกบนโลกใบนี้เป็นตัวผู้ และมีความสนใจในการเกี้ยวลามะสาวเมื่อมีอายุได้ 4 ปี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะดันมีนิสัยไม่อดทนเหมือนอูฐ ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวของการผสมสัตว์ข้ามสายพันธุ์ในครั้งนี้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้ดูแลเจ้า Cama คงกลัวน้องเหงา จึงผสมพันธุ์อูฐและลามะจนได้ Cama เพศเมีย จนในปัจจุบัน มี Cama บนโลกนี้ถึง 5 ตัวด้วยกัน
นอกจากน้อง ๆ ทั้ง 7 ชนิด ยังมีสัตว์ลูกผสมอีกมากกกกกในโลกใบนี้ เช่น Grolar Bear คือ น้องหมีที่เกิดจากหมีขั้วโลกและหมีกริซลี, แมวพันธุ์ซาวันนาห์ ที่เป็นลูกผสมระหว่างแมวบ้านและแมวป่าเซอร์วัล เป็นต้น สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อบากค้นหาข้อมูลเรื่องสัตว์เหล่านี้เพิ่ม เราแนะนำเว็บไซต์ Britanica ที่รวมเรื่องสัตว์นานาชนิดไว้เต็มไปหมด หรือถ้าอยากอ่านเรื่องสนุก ๆ เกี่ยวกับสัตว์อีก เราแนะนำบทความ Intro to Meow : ชวนทาสแมว มารู้จักแมวให้มากขึ้นผ่าน 5 วิชาแมว ส่วนใครที่อยากฝึกภาษา ไปสนุกกันต่อที่ เทียบสำนวนสุภาษิตภาษาอังกฤษกับภาษาไทย หรือจะอินกับฤดูฝนไปกับ 5 แอนิเมชันญี่ปุ่น ก็ได้นะ
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://bigcatrescue.org/liger-facts/
https://crownridgetigers.com/lions-tigons-and-hybrids-oh-my
https://www.thairath.co.th/content/234562
https://www.thedonkeysanctuary.org.uk/what-we-do/knowledge-and-advice/about-donkeys/mule
https://www.britannica.com/animal/mule-mammal
https://www.npr.org/templates/story/story.php?storyId=12260255
https://animals.howstuffworks.com/animal-facts/zorse.htm
https://www.tripsavvy.com/come-see-a-wholphin-and-her-daughter-1533536