เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยเห็นแก๊สหุงต้มสำหรับทำอาหาร รวมถึงน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์แน่นอน น้ำมันเหล่านี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของ ‘สารประกอบไฮโดรคาร์บอน’ หนึ่งในสารอินทรีย์ที่เพื่อน ๆ จะได้เรียนกันในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ว่าแต่… จริง ๆ แล้วสารประกอบไฮโดรคาร์บอนคืออะไร พบได้แค่ในน้ำมันอย่างเดียวหรือเปล่านะ ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้ต้องไปหาคำตอบด้วยกันในบทความนี้แล้วล่ะ
หรือเพื่อน ๆ จะเข้าไปเรียนในแอปพลิเคชันออนไลน์อย่าง StartDee ก็ได้นะ
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนคืออะไร
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนคือสารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีองค์ประกอบหลักเป็นไฮโดรเจน (H: hydrogen) และคาร์บอน (C: carbon) โดยคาร์บอนแต่ละอะตอมจะสร้างพันธะโคเวเลนต์ (covalent bond) ระหว่างกันในรูปพันธะเดี่ยว พันธะคู่ และพันธะสาม พันธะที่แตกต่างกันมีผลต่อความอิ่มตัว และความว่องไวต่อปฏิกิริยาของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน เราจึงแบ่งประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนตามชนิดของพันธะได้ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบอิ่มตัว (saturated hydrocarbon)
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบอิ่มตัวเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ มีแต่พันธะเดี่ยว ได้แก่ แอลเคน (alkane) ไซโคลแอลเคน (cycloalkane) - สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบไม่อิ่มตัว (unsaturated hydrocarbon)
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบไม่อิ่มตัวเป็นสารประกอบที่ มีพันธะคู่ หรือพันธะสามอยู่ในโครงสร้าง สารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ แอลคีน (alkene) ไซโคลแอลคีน (cycloalkene) แอลไคน์ (alkyne) ไซโคลแอลไคน์ (cycloalkyne) และแอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน (aromatic hydrocarbon)
ประเภทของสารประกอบ | ชนิดของพันธะ | ตัวอย่าง |
แอลเคน (alkane) | พันธะเดี่ยว (single bond) | |
แอลคีน (alkene) | พันธะคู่ (double bond) | |
แอลไคน์ (alkyne) | พันธะสาม (triple bond) | |
แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน (aromatic hydrocarbon) | พันธะเดี่ยวและพันธะคู่สลับกันเป็นวง |
นอกจากการจำแนกสารประกอบไฮโดรคาร์บอนตามชนิดของพันธะ เรายังใช้เกณฑ์อื่น ๆ มาจำแนกสารประกอบไฮโดรคาร์บอนได้อีก เช่น จำแนกตามโครงสร้างแบ่งเป็น 2 ประเภท คือแบบโซ่เปิด (aliphatic hydrocarbon) และแบบโซ่ปิดหรือเป็นวง (alicyclic hydrocarbon และ aromatic hydrocarbon)
Do you know ?: พันธะต่าง ความแข็งแรงก็ต่าง
รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วพันธะโคเวเลนต์มี 2 ชนิด คือพันธะซิกมา (sigma bond: σ) และพันธะพาย (pi bond: π) พันธะโคเวเลนต์ทั้งสองแบบเป็นเหมือนพี่น้องสองคนที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน คือ
- พันธะซิกมา เกิดจากการสร้างพันธะระหว่างอะตอมแบบ head to head จึงแข็งแรง และไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยา
- พันธะพาย เกิดจากการสร้างพันธะระหว่างอะตอมแบบ side to side จึงไม่แข็งแรงเท่าพันธะซิกมา ทำให้ว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยามากกว่า
รูปแบบพันธะโคเวเลนต์ ขอบคุณรูปภาพจาก lavelle.chem.ucla.edu
ซึ่งในพันธะเดี่ยว พันธะคู่ และพันธะสามจะประกอบด้วยพันธะโคเวเลนต์ 1 - 2 แบบ ขึ้นอยู่กับชนิดของพันธะ โดยพันธะเดี่ยวจะประกอบด้วยพันธะซิกมา 1 พันธะ พันธะคู่ประกอบด้วยพันธะซิกมา 1 พันธะและพันธะพาย 1 พันธะ ส่วนพันธะสามประกอบด้วยพันธะซิกมา 1 พันธะและพันธะพายอีก 2 พันธะ ดังนี้
พันธะโคเวเลนต์ | พันธะเดี่ยว | พันธะคู่ | พันธะสาม |
พันธะซิกมา (sigma bond: σ) | 1 | 1 | 1 |
พันธะพาย (pi bond: π) |
0 | 1 | 2 |
นอกจากองค์ประกอบของพันธะที่แตกต่างกัน ความแข็งแรง ความยาว และพลังงานของพันธะก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันตามไปด้วย เช่น
ความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยา: พันธะเดี่ยว < พันธะคู่ < พันธะสาม
ความแข็งแรงของพันธะ: พันธะเดี่ยว < พันธะคู่ < พันธะสาม
ความยาวของพันธะ: พันธะเดี่ยว > พันธะคู่ > พันธะสาม
พลังงานของพันธะ: พันธะเดี่ยว < พันธะคู่ < พันธะสาม
คุณสมบัติของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
เมื่อได้รู้ว่าโครงสร้างที่แตกต่างมีผลต่อสมบัติของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนแต่ละชนิด ในหัวข้อนี้เราจะมาดูคุณสมบัติของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนทั้งแบบอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบอิ่มตัว
แอลเคน (alkane)
แอลเคนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีโครงสร้างเรียบง่ายที่สุด โครงสร้างของแอลเคนประกอบด้วยอะตอมของไฮโดรเจนและคาร์บอน โดยอะตอมคาร์บอนจะสร้างพันธะเดี่ยวระหว่างกันเป็นโซ่ตรงหรือโซ่กิ่ง สูตรเคมีทั่วไปของแอลเคนคือ CnH2n+2 ยกตัวอย่างเช่น มีเทน (CH4) อีเทน (C2H6) โพรเพน (C3H8) แอลเคนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัว ไม่มีขั้ว ไม่ละลายน้ำ ไม่นำไฟฟ้า และไม่มีเขม่าเมื่อนำไปเผา
ไซโคลแอลเคน (cycloalkane)
ไซโคลแอลเคนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ มีพันธะเดี่ยว ระหว่างอะตอมคาร์บอน แต่ มีโครงสร้างปิดเป็นวง ทำให้สูตรเคมีทั่วไปของไซโคลแอลเคนเป็น CnH2n (ไฮโดรเจนหายไป 2 อะตอม) ซึ่งเป็นไอโซเมอร์กับแอลคีน เราสามารถพิสูจน์ความแตกต่างระหว่างไซโคลแอลเคนและแอลคีนได้ด้วยการทดสอบความอิ่มตัว ตัวอย่างของไซโคลแอลเคน เช่น ไซโคลโพรเพน (C3H6) ไซโคลบิวเทน (C4H8) ไซโคลเพนเทน (C5H10)
ไซโคลแอลเคนมีคุณสมบัติเหมือนกับแอลเคนทุกอย่าง คืออิ่มตัว ไม่มีขั้ว ไม่ละลายน้ำ ไม่นำไฟฟ้า และไม่มีเขม่าเมื่อนำไปเผา
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแบบไม่อิ่มตัว
แอลคีน (alkene)
แอลคีนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ มีพันธะคู่ ระหว่างอะตอมคาร์บอน 1 พันธะ มีสูตรเคมีทั่วไปเป็น CnH2n ยกตัวอย่างเช่น อีทีน (C2H4) โพรพีน (C3H6) บิวทีน (C4H8)
เนื่องจากมีพันธะคู่อยู่ในโครงสร้าง แอลคีนจึงเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ไม่อิ่มตัว ไม่มีขั้ว ไม่ละลายน้ำ ไม่นำไฟฟ้า เมื่อนำไปเผาจะมีเขม่าเล็กน้อย
ไซโคลแอลคีน (cycloalkenes)
ไซโคลแอลคีนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ มีพันธะคู่ ระหว่างอะตอมคาร์บอนและ มีโครงสร้างปิดเป็นวง สูตรทั่วไปของไซโคลแอลคีนคือ CnH2n-2 ไซโคลแอลคีนจึงเป็นไอโซเมอร์กับแอลไคน์ ตัวอย่างของไซโคลแอลคีน เช่น ไซโคลโพรพีน (C3H4) ไซโคลบิวทีน (C4H6) ไซโคลเพนทีน (C5H8) ไซโคลแอลคีนมีสมบัติเหมือนกับแอลคีน คือไม่อิ่มตัว ไม่มีขั้ว ไม่ละลายน้ำ ไม่นำไฟฟ้า เมื่อนำไปเผาจะมีเขม่าเล็กน้อย
แอลไคน์ (alkyne)
แอลไคน์เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ มีพันธะสาม ระหว่างอะตอมคาร์บอน สูตรทั่วไปของแอลไคน์คือ CnH2n-2 ยกตัวอย่างเช่น อีไทน์ (C2H2) โพรไพน์ (C3H4) บิวไทน์ (C4H6)
แอลไคน์เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ไม่อิ่มตัวมากที่สุดเมื่อเทียบกับแอลเคนและแอลคีน แอลไคน์ไม่มีขั้ว ไม่นำไฟฟ้า เมื่อนำไปเผาจะเกิดเขม่ามาก (แต่น้อยกว่าแอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน)
ไซโคลแอลไคน์ (cycloalkyne)
ไซโคลแอลไคน์เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ เป็นวงปิด และ มีพันธะสาม ระหว่างอะตอมคาร์บอนอย่างน้อยหนึ่งพันธะ สูตรทั่วไปของไซโคลแอลไคน์คือ CnH2n-4 ยกตัวอย่างเช่น ไซโคลออกไทน์ (C8H12) ไซโคลเดคไคน์ (C10H16) โดยไซโคลแอลไคน์จะมีสมบัติเหมือนกับแอลไคน์ คือไม่อิ่มตัวมาก ไม่มีขั้ว ไม่นำไฟฟ้า และเกิดเขม่ามากเมื่อนำไปเผา
แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน (aromatic hydrocarbon)
แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีโครงสร้างเฉพาะตัวคือ เป็นวงปิด และ มีพันธะเดี่ยวสลับกับพันธะคู่ โดยทั่วไปสารประกอบแอโรแมติกมักเกิดจากอนุพันธ์ของเบนซีน (C6H6) แต่มีสูตรทั่วไปที่ไม่แน่นอน ตัวอย่างของสารประกอบแอโรแมติก เช่น เบนซีน (C6H6) แนฟทาลีน (C10H8) แอนทราซีน (C14H10)
สารประกอบแอโรแมติกเป็นสารประกอบที่ไม่อิ่มตัวมากที่สุดในบรรดาสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ไม่มีขั้ว ไม่ละลายน้ำ ไม่นำไฟฟ้า และมีเขม่ามากที่สุดเมื่อนำไปเผา
และเมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนทั้ง 6 ชนิดจะสรุปได้ว่า
- ในกรณีที่คาร์บอนไม่เท่ากัน จุดเดือดจุดหลอมเหลวของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนจะสูงขึ้นตามมวลโมเลกุล (จำนวนคาร์บอน)
- กรณีที่จำนวนคาร์บอนเท่ากัน จุดเดือดจุดหลอมเหลวจะขึ้นอยู่กับการจัดเรียงอะตอมคาร์บอนและชนิดของสารประกอบ โดยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีการจัดเรียงอะตอมคาร์บอนแบบเส้นตรงจะมีจุดเดือดจุดหลอมเหลวสูงกว่าสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีโซ่กิ่ง เนื่องจากการจัดเรียงอะตอมคาร์บอนเป็นเส้นตรงจะทำให้แพ็คตัวได้แน่นและมีระเบียบมากกว่า และชนิดของสารประกอบก็มีผลต่อจุดเดือดจุดหลอมเหลวเช่นกัน โดย แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน > แอลไคน์ > แอลเคน > แอลคีน
- ความอิ่มตัวของ แอลเคน > แอลคีน > แอลไคน์ > แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน
- ความสมบูรณ์ของการเผาไหม้ แอลเคน > แอลคีน > แอลไคน์ > แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน
แต่ปริมาณเขม่า แอโรแมติกไฮโดรคาร์บอน > แอลไคน์ > แอลคีน > แอลเคน
นอกจากโครงสร้างและคุณสมบัติ เรื่องราวของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนยังมีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียกชื่อ การหาไอโซเมอร์ และปฏิกิริยาเคมี เพื่อน ๆ สามารถรับชมต่อได้ในรูปแบบแอนิเมชันที่แอปพลิเคชัน StartDee หรือจะแวะไปทบทวนบทเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง ภาษาถิ่นและคำซ้อน หรือ เมทามอร์โฟซิส (metamorphosis) ในวิชาชีววิทยาก็ได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก: ณัฐกร อุปถัมภ์ (ครูนัท)
References:
Wade, L. G. (2013). Structure and Stereochemistry of Alkanes. In Organic chemistry (8th ed., pp. 87-131). Boston: Pearson.
Lumen, L. (n.d.). Chemistry for majors. Retrieved March 21, 2021, from https://courses.lumenlearning.com/chemistryformajors/chapter/hydrocarbons/
สถาบันกวดวิชาติวเตอร์พอยท์. (2012). สารประกอบคาร์บอน. In Chemistry for high school students (4th ed., pp. 215-219). กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามลดา.