หลังจากศึกษาวรรณคดีไทยมาหลายต่อหลายเรื่อง เราเชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินชื่อของ ‘กาพย์เห่’ กันมาบ้างแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น กาพย์เห่เรือ ที่เห่ชมเรือ ชมนก ชมไม้ ชมปลา หรือชมธรรมชาติ แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่านอกจากเห่ชมธรรมชาติ ในโลกของวรรณคดีไทยยังมีกาพย์เห่ชมอาหารอยู่ด้วยนะ ! วันนี้บทเรียนออนไลน์จาก StartDee จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกาพย์เห่ที่อร่อยที่สุดอย่าง ‘กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน’ กัน ซึ่งเราขอบอกตรงนี้เลยว่า “วรรณคดีเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่อาหารอร่อย” แต่ยังแฝงโมเมนต์ความรักแสนโรแมนติกเอาแบบอัดแน่นสุด ๆ เลยล่ะ !
อยากรู้แล้วล่ะสิว่าเรื่องราวความรักสุดโรแมนซ์และอาหารอร่อยจะมาบรรจบกันได้ยังไง แต่ก่อนจะเข้าสู่บทเรียน เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เตรียมขนมและอาหารคาวหวานไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มอ่าน ไม่งั้นหิวขึ้นมาเราไม่รู้ด้วยนะ กินไปเรียนกับแอปพลิเคชัน StartDee ไปพร้อม ๆ กันด้วยก็ได้นะ คลิกแบนเนอร์เพื่อดาวน์โหลดได้เลย
เสน่ห์ปลายจวักและเรื่องรักคอมเมดี้: ความเป็นมาและจุดประสงค์ในการแต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) โดยพระองค์ทรงพระราชนิพนธ์กาพย์เห่นี้ขึ้นตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระอิสสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร จุดประสงค์ในการแต่งก็เหมือนกับกาพย์เห่อื่น ๆ คือเพื่อใช้เป็นบทเห่สำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารค[1] แต่สิ่งที่ทำให้กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพิเศษยิ่งขึ้นก็คือการทำหน้าที่เป็น ‘จดหมายรัก’ พรรณนาความรักความคิดถึงที่เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรมีต่อเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดไปในตัว เพราะถ้าเพื่อน ๆ สังเกตดี ๆ นอกจากการชื่นชมอาหารคาวหวานที่เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดเคยทำถวาย กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานยังมีเนื้อความอีกหลายจุดที่กวีพร่ำพรรณนาถึงนางอันเป็นที่รัก ดังเช่นกาพย์บทนี้...
๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม |
แกงคั่วส้มใส่ระกำ |
รอยแจ้งแห่งความขำ |
ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม |
จะเห็นว่ากวีพยายามบอกเล่า ‘ความขำ’ หรือความลับระหว่างกวีและนางอันเป็นที่รัก รวมถึงบรรยายความรู้สึกเศร้าของกวีที่ต้องพลัดพรากจากนางด้วย อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ อาจจะเริ่มสงสัยขึ้นมาว่า “แล้วความลับที่ว่านี่มันคืออะไรกันน้าาา”
เรื่องราวความรักแบบลับ ๆ ของเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรและเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด[2] นั้นถูกบันทึกบอกเล่าไว้ใน ‘ขัติยราชปฏิพัทธ’ พงศาวดารซุบซิบเรื่องรักในรั้ววัง
เมื่อเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้พบกับเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดจากการเสด็จไปเยี่ยมกรมพระศรีสุดารักษ์[3] (พระมารดาของเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด) ในช่วงที่กำลังทรงประชวร หลังจากพบกันครั้งแรก เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็รู้สึกต้องใจเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดทันที (แต่ต้องห้ามใจไว้เนื่องจากอาการประชวรของกรมพระศรีสุดารักษ์ค่อนข้างหนักหนา) ต่อมาเมื่อกรมพระศรีสุดารักษ์เสด็จทิวงคต เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรจึงมีโอกาสตรัสสนทนากับเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดอยู่บ่อยครั้งในระหว่างงานพระศพ หลังจากนั้นก็ได้ใกล้ชิด พูดคุย และเล่นเกมสกากันอยู่บ่อยครั้งจนเริ่มมีใจผูกพันกัน ความสัมพันธ์นี้ดำเนินไปอย่างลับ ๆ จนกระทั่งเจ้าฟ้าบุญรอดทรงพระครรภ์ได้สี่เดือน เรื่องรักลับ ๆ จึงไม่ลับอีกต่อไป เพราะเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (ร.๑) ได้ทราบเรื่องก็ทรงกริ้วมาก ทรงรับสั่งไม่ให้เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรเข้าเฝ้า (รวมถึงห้ามส่งสินค้าลงเรือสำเภาไปค้าขายด้วย) ส่วนเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดนั้นก็ถูกสั่งให้ออกจากวังไปเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาของชาววัง
เจ้าฟ้าบุญรอดจึงไปอาศัยอยู่กับกรมหลวงเทพหริรักษ์ (ต้นราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา) ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย ในระหว่างนั้นเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็หมั่นส่งคนไปเยี่ยมเยียนเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดอยู่เสมอ ช่วงเวลาสามเดือนที่ต้องพลัดพรากจากนางอันเป็นที่รักทำให้เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรเกิดความโหยหาและทรมานใจเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่มาของการคร่ำครวญถึงอาหารคาวหวานและนางอันเป็นที่รักใน ‘กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน’ ที่เพื่อน ๆ ได้เรียนกันในระดับชั้นนี้ และกว่าจะได้ครองรักกันอย่างแฮปปี้ เรื่องราวความรักที่ต้องแอบซ่อนของเจ้าฟ้าทั้งสองพระองค์ดำเนินไปเป็นเวลากว่าสองปี ดังบทที่ว่า...
๏ ทองหยอดทอดสนิท |
ทองม้วนมิดคิดความหลัง |
สองปีสองปิดบัง |
แต่ลำพังสองต่อสอง |
โดยกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานประกอบด้วยบทเห่ทั้งหมด ๕ บท ได้แก่ บทเห่ชมเครื่องคาว บทเห่ชมผลไม้ บทเห่ชมเครื่องหวาน บทเห่ครวญเข้ากับงานนักขัตฤกษ์ และบทเห่เจ้าเซ็น โดยเนื้อหาที่ยกมาให้เพื่อน ๆ ได้เรียนในระดับชั้นนี้จะมีแค่บทเห่ชมเครื่องคาวเท่านั้น
[1] การเสด็จประพาสทางน้ำ เช่น เสด็จโดยเรือ
[2] ภายหลังคือสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระราชินีในรัชกาลที่ ๒
[3] กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ พระมารดาของเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดนั้นเป็นพระพี่นางองค์ใหญ่ในรัชกาลที่ ๑ เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดจึงมีศักดิ์เป็นลูกของป้าของรัชกาลที่ ๒ นอกจากนี้กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ยังเป็นหัวหน้ากำกับห้องเครื่องใหญ่ ทำให้เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับการทำอาหารคาวหวานจากพระมารดาโดยตรงและมีฝีมือการทำเครื่องเสวยที่เป็นเลิศ
ลักษณะคำประพันธ์ของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกาพย์เห่ ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพ (เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้การแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพได้เลย ที่นี่) และกาพย์ยานี ๑๑ โดยกาพย์ยานี ๑๑ จะมีเอกลักษณ์คือหนึ่งบาท (วรรคหน้ารวมกับวรรคหลัง) จะมี ๑๑ คำพอดี โดยแบ่งเป็นวรรคหน้า ๕ คำ และวรรคหลังอีก ๖ คำ ฉันทลักษณ์ของกาพย์ยานี ๑๑ มีดังนี้
โดยบทนำของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานจะแต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท ต่อจากนั้นจะแต่งด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไม่จำกัดจำนวนบท ซึ่งกาพย์แต่ละบทมีเนื้อความสอดคล้องกับโคลงบทนำ เช่น...
๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ |
นพคุณ พี่เอย |
หอมยี่หร่ารสฉุน |
เฉียบร้อน |
ชายใดบริโภคภุญช์ |
พิศวาส หวังนา |
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน |
อกให้หวนแสวง ๚ |
๏ มัสมั่นแกงแก้วตา |
หอมยี่หร่ารสร้อนแรง |
ชายใดได้กลืนแกง |
แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา |
ฯลฯ
โคลงบทแรกกล่าวถึงแกงมัสมั่นที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมจากยี่หร่า ชายใดที่ได้รับประทานแกงนี้ก็ติดใจ อยากรับประทานอีก ซึ่งเนื้อความของกาพย์ยานี ๑๑ บทต่อมาก็มีความหมายเหมือนกัน จึงแสดงให้เห็นว่าโคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ สองบทนี้มีเนื้อความสอดคล้องกัน
คำศัพท์ที่ควรรู้ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
ขึ้นชื่อว่ากาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ในเนื้อความแต่ละบทจึงมีคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารและวัตถุดิบต่าง ๆ อยู่เต็มไปหมด เพื่อการอ่านกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานที่ได้อรรถรส เราเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักวัตถุดิบหลัก ๆ อย่างคำศัพท์น่ารู้กันก่อน ไปกันเลย !
คำศัพท์ | ความหมาย |
กระบิดกระบวน | ชั้นเชิง |
กล | เหมือน |
กล่อมเกลี้ยงกลม | รสชาติกลมกล่อม |
ก้อย | ชื่ออาหารชนิดหนึ่งคล้ายพล่า ทำด้วยกุ้งสด หั่นเนื้อเป็นชิ้น ๆ แล้วทำให้สุกด้วยน้ำส้ม มีเครื่องประสม |
แกงขม | เครื่องกินกับขนมจีนน้ำยา มีมะระหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วลวกให้สุก |
แกงคั่วส้ม | แกงที่ปรุงน้ำพริกคล้ายแกงส้มแต่ใส่กะทิ มีสองแบบ คือ แบบรสเค็ม และแบบรสเปรี้ยว |
ข้อน | ตี ทุบ |
ความขำ | ความลับของกวีกับนางอันเป็นที่รัก |
เคร่า | คอย |
ช้าช้า | มาจาก ชะช้า เป็นคำอุทานแสดงความดีใจหรือแปลกใจ |
เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ | เหมือนกับนางที่ตั้งใจ |
ซด | สูดน้ำเข้าในปาก |
แด | ใจ |
ตับเหล็ก | ม้ามของหมู |
ไตปลา | เนื้อที่เป็นก้อนอยู่ในกระเพาะปลาบางชนิด นำมาหมักกับเกลือ นำมาปรุงอาหารแบบเครื่องจิ้ม |
ทองหลาง | ต้นไม้ชนิดหนึ่ง ใบมนคล้ายใบโพธิ์ |
เทโพ | ชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง ไม่มีเกล็ด |
น้ำปลาญี่ปุ่น | น้ำปลาสูตรพิเศษที่นำไปหมักกับซีอิ๊ว |
นิทร | นอน |
ประทิ่น | เครื่องหอม |
ผักโฉม | พืชชนิดหนึ่ง ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ลําต้นและกิ่งอวบน้ำ สีม่วง ใบรูปไข่ |
ผักหวาน | พืชชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นพุ่ม ยอดกินได้ |
พร้อง | พูดถึง |
พล่า | เครื่องกับข้าวชนิดหนึ่ง คล้ายยํา มักใช้เนื้อดิบทำให้สุกด้วยของเปรี้ยว เช่น มะนาว |
ไฟฟอน | กองไฟที่ดับแล้วแต่ยังระอุอยู่ |
ภุญช์ | รับประทาน |
มัสมั่น | แกงชนิดหนึ่งปรุงด้วยเครื่องเทศ เช่น ยี่หร่า ลูกกระวาน ใบกระวาน อบเชย กานพลู เป็นต้น |
มือนาง | ฝีมือนาง |
เมืองบน | เมืองฟ้า สวรรค์ |
ยำใหญ่ | อาหารประเภทยำแบบไทยที่ใส่แตงกวา ไข่ต้ม กุ้งต้ม หมูต้ม ปรุงให้มีรสเปรี้ยว เค็ม หรือหวานด้วยก็ได้ |
ยี่หร่า | เครื่องเทศชนิดหนึ่งกลิ่นหอมฉุน เม็ดรี เล็ก ๆ |
รังนก | รังของนกอีแอ่นชนิดหนึ่ง เมื่อแช่นํ้ามีลักษณะคล้ายวุ้น กินได้ |
รางชาง | สวยงาม |
เรียม | คําใช้แทนตัวผู้พูดสําหรับผู้ชาย |
ลดหลั่นชั้นชอบกล | มีลวดลายเป็นชั้นดูสวยงาม |
ล่าเตียง | ชื่ออาหารว่างอย่างหนึ่งใช้ไข่โรยเป็นร่างแห ห่อไส้ซึ่งทำด้วยกุ้งผัดกับเครื่องปรุง ให้มีขนาดพอดีคำ |
ลูกเอ็น | ลูกเฮ็ล คือ ลูกกระวาน |
เสวย | กิน |
เสาวคนธ์ | ของหอม |
แสร้งว่า | เครื่องจิ้มที่ทำด้วยเนื้อปลาย่าง หรือกุ้ง แทนการใช้ไตปลา |
หมูแนม | อาหารว่าง ทำด้วยเนื้อหมู และข้าวคั่วโม่ |
หรุ่ม | ชื่ออาหารอย่างหนึ่งคล้ายล่าเตียง ไส้ทําด้วยหมูหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ห่อใหญ่กว่าล่าเตียง |
หื่นหอม | หอมมากจนเร้าอารมณ์ |
เหลือตรา | เหลือที่จะพรรณนาได้ |
อ่อม | ชื่อแกงชนิดหนึ่ง คล้ายแกงคั่ว แต่ใส่มะระ มักแกงกับปลาดุก |
อาวรณ์ | ห่วงใย คิดกังวลถึง |
โอชา | มีรสดี อร่อย |
รสชาตินี้ที่คิดถึง: ถอดคำประพันธ์กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
หลังจากเรียนรู้คำศัพท์จนได้ที่ เรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานจะน่ารับประทานขนาดไหน ความรักที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงมีต่อสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีจะมากมายสักเท่าไหร่ มาเริ่มแปลไปพร้อม ๆ กันเลย
แต่ถอดบทประพันธ์เฉย ๆ อาจจะยังท้าทายไม่พอ เราขอท้าให้เพื่อน ๆ นับชื่ออาหารไปด้วย แปลจบแล้วก็มาดูกันหน่อยว่า ‘กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานมีอาหารทั้งหมดกี่ชนิด’ ค่อย ๆ นับนะ อย่าแอบไปดูเฉลยก่อนล่ะ
๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ |
นพคุณ พี่เอย |
หอมยี่หร่ารสฉุน |
เฉียบร้อน |
ชายใดบริโภคภุญช์ |
พิศวาส หวังนา |
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน |
อกให้หวนแสวงฯ |
๏ มัสมั่นแกงแก้วตา |
หอมยี่หร่ารสร้อนแรง |
ชายใดได้กลืนแกง |
แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา |
แกงมัสมั่นไก่ที่น้องทำมีกลิ่นหอมของยี่หร่าและมีรสชาติที่ร้อนแรง ผู้ชายคนไหนได้รับปะทานแกงนี้เข้าไปก็จะต้องหลงรักฝันใฝ่ในตัวน้อง รวมทั้งติดใจในรสชาติ อยากจะกลับมารับประทานอีก
๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด |
วางจานจัดหลายเหลือตรา |
รสดีด้วยน้ำปลา |
ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ |
ยำใหญ่มีเครื่องต่าง ๆ ครบครัน จัดจานอย่างสวยงามสุดจะพรรณนา ยิ่งปรุงรสด้วยน้ำปลาญี่ปุ่น ก็ยิ่งทำให้น่าลิ้มลองเป็นที่สุด
๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม |
เจือน้ำส้มโรยพริกไทย |
โอชาจะหาไหน |
ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง |
น้องทำตับเหล็กลวกใส่น้ำส้มและพริกไทยเล็กน้อย รสชาติของตับเหล็กลวกนี้อร่อยมากแบบหากินที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว อาหารนี้ไม่มีใครทำอร่อยสู้ฝีมือของน้องได้เลย
๏ หมูแนมแหลมเลิศรส |
พร้อมพริกสดใบทองหลาง |
พิศห่อเห็นรางชาง |
ห่างห่อหวนป่วนใจโหย |
หมูแนมรสชาติอร่อยเลิศ มาพร้อมกับเครื่องเคียงอย่างพริกสดและใบทองหลางมองดูแล้วสวยงาม ยามใดที่พี่ห่างห่อหมูแนม (ไม่ได้กินหมูแนมนาน ๆ) ก็จะทำให้พี่ปั่นป่วนหัวใจ คิดถึงแต่น้องอยู่ทุกเวลา
๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น |
วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย |
รสทิพย์หยิบมาโปรย |
ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ |
ก้อยกุ้งปรุงเสร็จแล้วกลิ่นหอมมากราวกับอาหารทิพย์บนสวรรค์ เมื่อสัมผัสถูกลิ้นมีความอร่อยมากจนแทบขาดใจ จึงไม่มีใครที่มีฝีมือปรุงอาหารเทียบน้องได้
๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง |
เป็นมันย่องล่องลอยมัน |
น่าซดรสครามครัน |
ของสวรรค์เสวยรมย์ |
แกงเทโพใช้เนื้อส่วนท้องของปลาเทโพในการปรุง ทำให้น้ำแกงมีความมัน มองดูน่าซด รสชาติก็อร่อยมากเปรียบเหมือนอาหารบนสวรรค์
๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า |
ทำน้ำยาอย่างแกงขม |
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม |
ชมไม่วายคลับคล้ายเห็น |
ด้วยความรักของน้องที่มีต่อพี่ น้องจึงเปลี่ยนมาทำน้ำยา (ขนมจีน) แบบแกงขม รสชาติกลมกล่อมคล้ายแกงอ่อมมะระ ทำให้พี่ต้องชมฝีมือของน้องไม่ขาดปาก และเหมือนจะเห็นหน้าน้องตลอดเวลา
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ |
รสพิเศษใส่ลูกเอ็น |
ใครหุงปรุงไม่เป็น |
เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ |
ข้าวหุงเครื่องเทศนี้มีรสชาติพิเศษยิ่งขึ้นเมื่อใส่ลูกกระวานลงไป ใครหุงข้าวนี้ก็ไม่อร่อยเท่าน้องที่ตั้งใจหุงเลย
๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม |
แกงคั่วส้มใส่ระกำ |
รอยแจ้งแห่งความขำ |
ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม |
น้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารมาก ดูจากการนำเอาหมูป่ามาต้มทำแกงคั่วส้มใส่ระกำ ทำให้เห็นความลับระหว่างพี่กับน้อง ซึ่งมีแต่ความเจ็บช้ำระกำใจ
๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด |
ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม |
คิดความยามถนอม |
สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์ |
พล่าเนื้อสดส่งกลิ่นหอมฟุ้งมากจนเร้าอารมณ์ของพี่ ทำให้คิดถึงครั้งเมื่อเราเคยทะนุถนอมมอบความรักใคร่ให้แก่กัน ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันจนได้กลิ่นกายหอม ๆ ของน้อง
๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง |
นอนเตียงทองทำเมืองบน |
ลดหลั่นชั้นชอบกล |
ยลอยากนิทรคิดแนบนอน |
เห็นล่าเตียงแล้วพี่ก็คิดถึงเตียงนอนของน้อง ซึ่งเป็นเตียงทองอันมีลวดลายเป็นชั้น ๆ สวยงามเหมือนเตียงบนสวรรค์ เห็นแล้วก็ทำให้คิดอยากนอนกับน้อง
๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า |
รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน |
เจ็บไกลใจอาวรณ์ |
ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง |
พอเห็นหรุ่ม ความเศร้าโศกก็เข้ามารุมเร้าร้อนระอุอยู่ในอก ความเจ็บปวดด้วยใจคิดถึงน้องนี้ทำให้พี่ร้อนรุ่มหัวใจ
๏ รังนกนึ่งน่าซด |
โอชารสกว่าทั้งปวง |
นกพรากจากรังรวง |
เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน |
รังนกนึ่งน่ารับประทาน รสชาติก็อร่อยกว่าอาหารอื่น ๆ การที่นกต้องพรากจากรังก็เปรียบเหมือนกับตัวพี่ที่ต้องพลัดพรากจากน้องไป
๏ ไตปลาเสแสร้งว่า |
ดุจวาจากระบิดกระบวน |
ใบโศกบอกโศกครวญ |
ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ |
อาหารที่ดูเหมือนจะเป็นไตปลาแต่ความจริงคือ ‘แสร้งว่า’ ที่ทำเลียนไตปลา ทำให้พี่หวนคิดถึงคำพูดที่มีชั้นเชิงของน้อง พอเห็นใบโศกก็ทำให้พี่รู้ว่าน้องกำลังโศกเศร้าคร่ำครวญถึงพี่ ทำให้พี่เฝ้าคอยน้องอยู่ตลอดเวลา
๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง |
เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน |
ผักหวานซ่านทรวงใน |
ใคร่ครวญรักผักหวานนางฯ |
ผักโฉมเป็นเป็นชื่อที่มีความไพเราะ แต่ก็ไม่รู้ว่ากล่าวถึงโฉมของน้องหรือใครกันแน่ แต่พอเอ่ยชื่อผักหวานแล้วรู้สึกถึงความหวานที่แผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ ทำให้พี่คิดถึงความรักความอ่อนหวานของน้อง
เป็นยังไงกันบ้าง อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ นับอาหารกันได้กี่ชนิดเอ่ย ติ๊กต็อก ๆ เฉลยก็คืออออ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานมีอาหารทั้งหมด ๑๖ ชนิด แต่ตัวเลขนี้นับเฉพาะตอนที่ยกมาให้เพื่อน ๆ เรียนนะ ยังไม่รวมรายการอาหารที่อยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องหวานและผลไม้
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
ไม่ใช่แค่อาหารที่รสเลิศ แต่คุณค่าทางวรรณศิลป์ที่อยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานนั้นก็เลิศไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น...
๑. การสรรคำและเล่นเสียงให้เกิดความไพเราะ เช่น การเล่นเสียงวรรณยุกต์ในคำว่า ‘หรุ่ม’ ‘รุม’ ‘รุ่ม’ และการเล่นเสียงพยัญชนะในคำว่า ‘ร้อน’ ‘รุม’ ‘รุ่ม’ ซึ่งเห็นได้โดดเด่นมากในบทนี้…
เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า |
รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน |
เจ็บไกลใจอาวรณ์ |
ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง |
๒. การเปรียบเทียบแบบอุปมา เปรียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เช่น การเปรียบเทียบแสร้งว่าที่เป็นชื่ออาหาร กับท่าทีการสนทนาของนางอันเป็นที่รักในบทนี้…
ไตปลาเสแสร้งว่า |
ดุจวาจากระบิดกระบวน |
ใบโศกบอกโศกครวญ |
ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ |
๓. การกล่าวเกินจริง (อติพจน์) เช่น การพรรณนาว่ารสชาติของก้อยกุ้งนั้นอร่อยมาก แค่แตะปลายลิ้นก็รู้สึกอร่อยจนแทบจะขาดใจในบทนี้…
ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น |
วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย |
รสทิพย์หยิบมาโปรย |
ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ |
นอกจากการพรรณนาถึงอาหารเลิศรส บรรยายความรัก ความคิดถึง และความทรมานใจในช่วงเวลาที่ต้องพลัดพรากจากนางอันเป็นที่รัก กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานยังถ่ายทอดวัฒนธรรมด้านอาหารการกินผ่านอาหารพื้นบ้าน อาหารชาววัง ทั้งสัญชาติไทย จีน มุสลิมไว้อย่างกลมกลืน และถึงอาหารส่วนใหญ่จะเป็นตำรับโบราณที่หาทานได้ยาก เพื่อน ๆ ก็สามารถตามรอยกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน สวมบทบาทเป็นสาวชาววังส่งตรงจากห้องเครื่องได้ใน รายการกระจกหกด้าน ตอน สำรับในกาพย์เห่รัชกาลที่ ๒ หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน StartDee แล้วไปทัวร์ครัว StartDee กับครูหนึ่งก็สนุกไม่แพ้กัน แถมเพื่อน ๆ ยังสามารถอ่านบทเรียนออนไลน์วิชาภาษาไทยได้อีกนะ มีทั้งเรื่องศิลาจารึกหลักที่ ๑ และนิราศภูเขาทอง เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก: ธีรศักดิ์ จิระตราชู (ครูหนึ่ง)
Reference:
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, 2551.
ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต. กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่นิราศแรมรสร้าง. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2009.
ปรามินทร์ เครือทอง. “ขัติยราชปฏิพัทธ รักเร้นของรัชกาลที่ 2.” ศิลปวัฒนธรรม, 6 Sept. 2020, www.silpa-mag.com/history/article_6750.